ราคาน้ำมันขยับลงในวันจันทร์ (24 เดือนตุลาคม) จากข้อมูลที่เปิดเผยให้เห็นว่าอุปสงค์ในจีนยังคงซบเซาในเดือนกันยายน และก็ดอลลาร์แข็งค่า ปัจจัยหลังนี้ฉุดทองคำปรับลด ในขณะที่หุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรง จากสัญญาณบ่งชี้ว่านโยบายชะลอเศรษฐกิจเพื่อควบคุมเงินเฟ้อของเฟดกำลังเริ่มได้ผล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 47 เซนต์ ปิดที่ 84.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 93.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ถึงแม้เพิ่มขึ้นจากสิงหาคม แต่ตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบของจีนประจำเดือนกันยายน อยู่ที่ 9.79 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2% ข้อมูลศุลกากรระบุในวันจันทร์ (24 เดือนตุลาคม) ในขณะที่โรงกลั่นเอกชนชะลอการกลั่นท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอลง

ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายโควิด-19

เป็นศูนย์และก็วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีน กำลังบ่อนทำลายคุณภาพของมาตรการกระตุ้นการเติบโต จากความเห็นของนักวิเคราะห์ ถึงแม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของจีนจะขยายตัวมากกว่าคาดหมายไว้ก็ตาม

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับราคาน้ำมันเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุว่ามันทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นสำหรับคนซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

การแข็งค่าของดอลลาร์ ฉุดให้ทองคำปิดลบในวันจันทร์ (24 เดือนตุลาคม) หลังจากพุ่งแรงเมื่อวันศุกร์ (21 เดือนตุลาคม) ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,654.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (24 เดือนตุลาคม) ปรับขึ้นต่อเนื่องจากอาทิตย์ที่แล้ว

สัญญาณการอ่อนตัวของเศรษฐกิจ บ่งชี้ว่านโยบายเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีเป้าหมายชะลอเศรษฐกิจ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูงหลายทศวรรษกำลังเริ่มได้ผล

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 417.06 จุด (1.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 31,499.62 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 44.59 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,797.34 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 92.90 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,952.61 จุด

ดัชนีหลักทั้งยัง 3 ค่อยๆปรับขึ้นทั้งวัน ในวันแรกของอาทิตย์ที่จะเต็มไปด้วยรายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่และก็ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆ

รายงานของเอสแอนด์พี โกลบอล พบว่ากิจกรรมทางธุรกิจหดตัวในเดือนนี้ บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเริ่มได้ผลตามที่ต้องการ เพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางแห่งนี้อาจสามารถเริ่มชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตอันใกล้