Investment Strategy เศรษฐกิจสหรัฐ ชะลอตัวลงอีก แต่ตลาดงานยังแข็งแกร่งเกินจะสบายใจได้

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลทุกตัวที่เกี่ยวข้องกับสายโซ่อุปทานดีขึ้นทั้งหมด ซึ่งชี้ว่าเงินเฟ้อมีลัษณะทิศทางชะลอตัวลงในระยะถัดไป อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ไม่น่าจะนำมาซึ่งการทำให้ Fed ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยแรงในการประชุมวันพุธนี้

 

 

Investment Strategy

ปัญหาอยู่ที่ไส้ใน…

ดัชนี ISM ที่ชะลอตัวลงมีนัยยะที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา ซึ่งอาจทำให้บางคนอาจตีความไปว่าเศรษฐกิจในภาพกว้างกำลังชะลอตัวลง รวมทั้งเมื่อถึงจุดหนึ่งจะมีผลให้ Fed ลดท่าทีการใช้นโยบายการเงินตึงตัวลง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาที่ไส้ในจะพบว่าการผลิตของสหรัฐกำลังขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้น (52.3 ในเดือน ต.ค. จาก 50.6 ในเดือน เดือนกันยายน) ในขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ก็มากขึ้นเป็น 49.2 จาก 47.1 แต่คำสั่งซื้อใหม่สำหรับการส่งออกหดตัวหนักขึ้น ซึ่งชี้ว่าอุปสงค์ในตลาดโลกกำลังชะลอตัวลง ในอีกด้านหนึ่ง การจ้างแรงงานกำลังเร่งตัวขึ้น โดยดัชนีขยับขึ้นมาเป็น 50 จาก 48.7 สอดคล้องกับรายงานขอ JOLTS ซึ่งบ่งชี้ว่ามีตำแหน่งงานเปิดใหม่มากขึ้นเป็น 10.72 ล้านตำแหน่งใน สูงขึ้นจาก 10.28 ล้านตำแหน่งในเดือนที่แล้วน้อย ทั้งนี้ สัดส่วนของตำแหน่งงานที่เปิดใหม่กับจำนวนคนตกงานมากขึ้นเป็น 1.86 จาก 1.70 ซึ่งข้อมูลใหม่นี้ยืนยันว่า Fed น่าจะยังจำเป็นต้องต้องขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 75bp ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งน่าจะขึ้นอีก 50bp ในการประชุมปลายปี แต่เรายังไม่ทิ้งความเป็นไปได้ที่ Fed อาจจะขึ้นดอกเบี้ย 75bp ในเดือนธ.ค.

เศรษฐกิจสหรัฐ

แต่มีสัญญาณว่าฝั่งอุปทานยังดี รวมทั้งจะดีถัดไป

เรารู้สึกว่าสายโซ่อุปทานกำลังดีขึ้น เนื่องจากการจัดส่งสินค้าหดตัวหนักขึ้นโดยอยู่ที่ 46.8 (จาก 52.4) สอดคล้องกับดัชนี price paid index ที่ลดลงอย่างมากเหลือ 46.6 จาก 51.7 โดยเหตุนี้ เราจึงรู้สึกว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่จะประกาศในวันที่ 10 พ.ย. จะเป็นตัวเลขที่ตลาดจับตาดูมากที่สุด ซึ่งในขณะที่เขียนบทวิเคราะห์ฉบับนี้อยู่ Nowcast ของ Fed สาขา Cleveland คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วๆไปจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 8% จาก 8.2% แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานน่าจะทรงตัวในระดับสูงที่ 6.6% เท่ากับเดือนเดือนกันยายน